ที่พักอบอุ่นสบายที่สุดในสหรัฐฯ สำหรับช่วงเทศกาล

สำหรับใครที่ต้องการหลบไปพักแต่ก็ยังอยากได้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านสำหรับช่วงเทศกาลนี้ วันคริสต์มาสก็เป็นโอกาสดีเยี่ยมที่นอกจากจะได้เฉลิมฉลองแล้วก็ได้หลบไปพักสักหน่อยด้วย เพราะการพาตัวเองไปยังสถานที่สุดพิเศษไม่ได้หมายความว่าจะรู้สึกเหมือนอยู่บ้านไปด้วยไม่ได้ จองที่พักระยะยาวแสนสบายสักแห่งจากที่แนะนำนี้ทั่วสหรัฐฯ เพื่อสัมผัสวันหยุดอันตราตรึงช่วงเทศกาล (ที่พักทั้งหมดนี้เปิดให้จองได้สูงสุด 90 วัน)

หากต้องการเข้าพักช่วงเทศกาลในบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านในแมนฮัตตัน ก็ไม่มีที่ไหนดีไปกว่า Manhattan Guest Suites ซึ่งมีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัวและตั้งอยู่ใจกลางย่าน Harlem อันมีชีวิตชีวา บ้านทาวน์เฮาส์สไตล์บราวน์สโตนแสนสวยนี้หันหน้าตรงไปยังสวนสาธารณะ Marcus Garvey Park อันเก่าแก่และเต็มไปด้วยใบไม้ร่มรื่น ซึ่งที่สวนดังกล่าวมีวงตีกลองและนักเล่นเครื่องดนตรีมาทำการแสดงทุกสัปดาห์ ห้องสวีทแต่ละห้องมีคุณลักษณะดั้งเดิมที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันซึ่งจะทำให้นึกถึงนวนิยายของอกาธา คริสตี้ ไม่ว่าจะเป็นผนังสีพีช พรมหรูหรา ฉากกั้นวาดมือ และเฟอร์นิเจอร์โบราณอื่น ๆ อันงดงาม ผู้ดูแลที่พักซึ่งพร้อมต้อนรับขับสู้จะให้บริการคุกกี้ ซินนามอนโรล และขนมปังกล้วยหรือวอลนัตแบบโฮมเมด นอกจากนี้ที่พักก็อยู่ใกล้ร้านอาหารดีที่สุดจำนวนหนึ่งของนิวยอร์กซิตี้ ย่าน Harlem ขึ้นชื่อเรื่องโซลฟู้ดหรืออาหารของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน (ลองไปร้าน Sylvia’s สุดโด่งดังที่อยู่ใกล้เคียง) อีกทั้งมีบาร์เหล้าเถื่อนและคลับแจ๊สซึ่งเป็นตำนาน

หากต้องการที่พักอบอุ่นสบายที่สุดสำหรับช่วงเทศกาล ขอแนะนำให้มุ่งหน้าไปยังเวลซึ่งมีเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ เมืองทรงเสน่ห์แห่งนี้เป็นประตูสู่พื้นที่ 13,448 ไร่ที่เล่นสกีได้ อีกทั้งมี Arrabelle at Vail Square, a RockResort ซึ่งเป็นอาคารหอคอยขนาดเล็กราวกับอยู่ในเทพนิยายและให้บริการที่พักที่เข้าออกลานสกีได้โดยไม่ต้องถอดอุปกรณ์สกี ตื่นขึ้นมาชมวิวดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวได้ที่ระเบียง ก่อนออกไปใช้เวลาทั้งวันบนเนินลาดเพื่อเพลิดเพลินกับสิ่งดีงามของรีสอร์ทอย่างผืนหิมะตกใหม่เนียนละเอียดดั่งแป้งและลู่สกีหลากหลายแบบ หากคุณไม่ได้กระตือรือร้นกับการเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดเท่าไรนัก ก็มีสโนว์โมบิลและกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายอื่น ๆ ให้เลือกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ก็สามารถไปปล่อยตัวปล่อยใจใช้เวลาทั้งวันที่สปาสุดหรูของโรงแรม เพื่อจะได้ใช้สิ่งต่าง ๆ ให้คุ้มค่าที่สุดไม่ว่าจะเป็นบริการนวดในสถานที่ อ่างน้ำอุ่น ซาวน่า ห้องอบไอน้ำ และสระว่ายน้ำที่ดาดฟ้า สำหรับค่ำคืนเอื่อยเฉื่อยก็มานั่งนอนสบาย ๆ ข้างเตาผิงในห้องสวีทของตนเอง หรือนั่งเลื่อนม้าลากไปตามถนนปูหินของเมืองพลางซุกตัวในผ้าห่มอุ่น ๆ ใต้ผืนฟ้าพร่างดาว

Riggs Washington DC ตกแต่งด้วยทองเหลืองและหินอ่อนซึ่งเหมาะสำหรับการใช้เป็นบ้านพักสุดหรูแต่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านสำหรับช่วงเทศกาลแสนพิเศษอย่างยิ่ง ตัวโรงแรมเดิมเคยเป็นธนาคาร Riggs National Bank และตัวตนในปัจจุบันก็รวมประวัติศาสตร์ของตนเองเข้ากับล็อบบี้ที่ปรับปรุงใหม่อย่างงดงามด้วยโคมไฟระย้ายิ่งใหญ่และเครื่องเบาะกำมะหยี่ ห้องสวีทมีเตียง 4 เสาและเห็นวิวทั่วเมือง นอกจากนี้ Riggs ก็มีสุดยอดทำเลซึ่งห่างจาก Gallery Place ไป 5 นาที เท่ากับว่าที่พักตั้งอยู่ในจุดดีเยี่ยมสำหรับผู้เข้าพักที่ต้องการไปชมสถานที่หลัก ๆ ช่วงคริสต์มาสของกรุงวอชิงตันดีซี ลองไปชม National Christmas Tree ซึ่งจะเปิดไฟสว่างไสวในวันพฤหัสบดีแรกของเดือนธันวาคม อีกทั้งตั้งอยู่ไม่ไกลตรงข้ามทำเนียบขาวในสวนสาธารณะ President’s Park (ประชาชนสามารถแวะมาชมต้นไม้ที่สว่างไสวนี้ได้ทุกค่ำคืนเริ่มตั้งแต่ 16:30 น. เป็นต้นไป) หยิบไวน์เครื่องเทศสักแก้วจากร้านค้าและเดินเตร่ไปตามสวนสาธารณะเพื่อชมการจัดแสดง “America Celebrates” ซึ่งตกแต่งต้นไม้เพื่อเป็นเกียรติแก่ประวัติศาสตร์ มรดกตกทอด และวัฒนธรรมของแต่ละรัฐในสหรัฐอเมริกา

ชมเมืองที่ได้รับฉายา “เมืองแห่งลม” (Windy City) สว่างไสวและเต็มไปด้วยความรื่นเริงช่วงเทศกาลได้ขณะเข้าพักที่ The Guesthouse Hotel โรงแรมบูติคที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัวนี้ตั้งอยู่ในย่าน Andersonville และมีลานระเบียงดาดฟ้าซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสำหรับชมวิวเส้นขอบฟ้าเมืองพลางดื่มไวน์สักขวดในยามค่ำคืน ใช้เวลายามบ่ายฤดูหนาวอ่านหนังสือข้างเตาผิง ก่อนจะออกไปเพลิดเพลินกับตลาดงานเทศกาลและการแสดงละครตามฤดูกาลในย่าน Downtown ของชิคาโก คว้าช็อกโกแลตร้อนหรือเอ๊กน็อก (นมต้มใส่ไข่และเหล้า) มาจิบระหว่างลัดเลาะผ่านแผงขายของและชมไฟประดับช่วงคริสต์มาสส่องแสงระยิบระยับ หรือสวมรองเท้าสเก็ตน้ำแข็งสักคู่และเข้าร่วมธรรมเนียมสุดมหัศจรรย์ของชิคาโกด้วยการแล่นฉิวบริเวณลานน้ำแข็งในสวนสาธารณะ Millennium Park

ซาวานนาห์ในช่วงเทศกาลนั้นมีบรรยากาศที่งดงามชวนมอง ลองเดินเล่นบริเวณย่าน Historic District ช่วงพลบค่ำเพื่อชมแสงจากเปลวเทียนและต้นคริสต์มาสส่องสว่างผ่านหน้าต่างมากมาย บริเวณจัตุรัสสาธารณะมักประดับประดาด้วยความเขียวขจีและริบบิ้นสีแดงตกแต่งรอบเสาไฟ นอกจากนี้ก็มีพวงหรีดทำจากฮอลลี่และเบอร์รี่ประดับหน้าประตูบ้านเรือนเก่าแก่เหมือนในเรื่องราวของนักเขียนชาร์ลส์ ดิกเกนส์ ใช้เวลาในช่วงฤดูกาลนี้ด้วยการเข้าพักที่ The Inn on West Liberty ซึ่งเป็นบ้านพักสไตล์อิตาลีที่ได้รับการบูรณะให้มีห้องสวีทส่วนตัวดึงดูดใจและหรูหรา ที่พักนี้ตั้งอยู่ใจกลางย่าน Downtown จึงเหมาะสำหรับการไปเพลิดเพลินกับสิ่งที่น่าสนใจในช่วงเทศกาลของเมือง ลองแวะไปชมพาเหรดคริสต์มาสหรือตลาด City Market เพื่อทำเครื่องประดับตกแต่งและถ่ายภาพกับซานตาคลอส